buddhaพระพุทธศาสนามิได้ห้ามผู้ใดอ่านหรือศึกษาคำสอนของศาสนาอื่น แท้ที่จริงแล้ว พระพุทธองค์ทรงแนะนำให้สาวกศึกษาเรียนรู้ศาสนาอื่นแล้วนำมาเปรียบเทียบกับคำสอนของพระองค์

       พระพุทธองค์เคยตรัสว่า  ถ้ามีคำสอนที่มีเหตุมีผลในศาสนาอื่น สาวกของพระองค์ย่อมมีอิสระที่จะนับถือคำสอนเหล่านั้น (ไม่ว่าคำสอนนั้นจะเป็นของศาสนาใด) คำถามก็คือว่า "เสรีภาพอย่างนี้ มีในศาสนาอื่นบ้างไหม?"

       ในปัจจุบันนี้ในหลายประเทศ บุคคลไม่มีเสรีภาพในการนับถือศาสนาเลย มนุษย์ไม่มีเสรีภาพแม้แต่จะคิดอย่างอิสระ เมื่อไรก็ตามที่เขาตระหนักว่า ศาสนาที่เขานับถืออยู่ผิด และเขามิได้รับความพอใจในการนับถือศาสนานั้น เขาก็ไม่มีอิสรภาพที่จะนับถือศาสนาใหม่ซึ่งจิตใจของเขาเรียกร้องปรารถนา เพราะผู้นำและสมาชิกในครอบครัวได้ฉกฉวยเอาเเสรีภาพจากเขาไป

       มนุษย์จะต้องเลือกศาสนาซึ่งเหมาะกับความเชื่อมั่นของตนเอง บุคคลไม่มีสิทธ์ที่จะบังคับให้ผู้อื่นนับถือศาสนา บุคคลไม่ควรเปลี่ยนศาสนาเพราะอารมณ์ บุคคลจะต้องใคร่ครวญอย่างรอบคอบก่อนที่จะเปลี่ยนศาสนา

       ในบางส่วนของโลก คนจำนวนมากเปลี่ยนศาสนาของตน และนับถือศาสนาใหม่ เพราะอิทธิพลของอาณานิคม และเพราะการศึกษาในต่างประเทศ

       ศาสนามิใช่สิ่งของที่จะต้องต่อรอง และแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์ทางวัตถุ พระพุทธศาสนา ไม่เคยรบเร้าผู้ใดให้นับถือศาสนา เพื่อผลประโยชน์ทางวัตถุ

       พระพุทธองค์ ได้แนะนำบุคคลจำนวนมาก ซึ่งมาเฝ้าพระองค์ และรับเอาคำสอนของพระองค์ว่า อย่าด่วนทำเช่นนั้น

       พระองค์ได้ขอร้องให้เขาพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะรับเอาคำสอนของพระองค์เป็นแนวทางแห่งชีวิต

 

       ที่มา :'  พระพุทธศาสนา: ศาสนาแห่งปัญญา  โดย ธรรมรักขิต